เปลี่ยนการแสดงผล
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซด์
วันนี้
60686
เดือนนี้
2659893
เมื่อวาน
147215
เดือนที่แล้ว
2214472
รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่ จ.ตาก ติดตามการพัฒนาสนามบินตากและการปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ พร้อมรับเครื่องบิน L-410NG ลำใหม่เข้าประจำการ เสริมศักยภาพการบินดัดแปรสภาพอากาศ
17 สิงหาคม 2568 55 ครั้ง
วันที่ 17 สิงหาคม 2568 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ ณ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดตาก ตำบลน้ำรึม อำเภอเมือง จังหวัดตาก เพื่อตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาสนามบินตากและการปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำในเขื่อนในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติโอนความรับผิดชอบจากกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม
ให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 และส่งมอบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 เพื่อใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงและพัฒนาเป็นศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการบินแห่งใหม่ในภาคเหนือ โดยสนามบินตากจะได้รับการพัฒนาเป็นฐานหลักในการปฏิบัติการบินดัดแปรสภาพอากาศเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ดับไฟป่า และบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 แทนศูนย์ปฏิบัติการเดิมที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีข้อจำกัดด้านรันเวย์และเที่ยวบินพาณิชย์ที่มีเป็นจำนวนมาก โดยจะมีแผนพัฒนาครอบคลุมทั้งการปรับปรุงผิวรันเวย์ ทางขับ ลานจอด ซ่อมแซมรั้วสนามบิน อาคารผู้โดยสาร ระบบสื่อสารและอุปกรณ์ช่วยการบิน ตลอดจนจัดหาบริภัณฑ์ภาคพื้น เช่น รถดับเพลิง รถเชื้อเพลิง และรถตรวจความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีแผนการจัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการบิน เพื่อผลิตและพัฒนานักบิน ช่างอากาศยาน และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง พร้อมเครื่องฝึกบินเสมือนจริง (Full Flight Simulator) มาตรฐานสากล และศูนย์ฝึกภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งจะสามารถช่วยยกระดับมาตรฐานการบินของประเทศ และลดค่าใช้จ่ายด้าน
การฝึกอบรมในระยะยาวได้
.
ด้านนายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการปฏิบัติการฝนหลวง ขณะนี้บริเวณภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.น่าน และ จ.เชียงใหม่ ในหลายพื้นที่มีปริมาณฝนเพียงพอแล้ว แต่บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ จ.ลำพูน จ.ตาก จ.สุโขทัย
จ.กำแพงเพชร จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร และ จ.เพชรบูรณ์ ยังต้องการน้ำเร่งด่วนเพื่อรักษาผลผลิตทางการเกษตร
ซึ่งกรมฯ ได้วางแผนปฏิบัติการอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่อุทกภัย และมุ่งเน้นช่วยเหลือให้ตรงพื้นที่
ที่ต้องการน้ำในภูมิภาคอื่นๆ โดยมีผลการปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม – 31 กรกฎาคม 2568
ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 146 วัน 1,865 เที่ยวบิน มีฝนตกจากการปฏิบัติการถึงร้อยละ 91.84 ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกว่า 21.81 ล้านไร่ และเติมน้ำเขื่อนสำคัญในภาคเหนือหลายแห่ง
โอกาสนี้ กรมฝนหลวงฯ ยังได้เปิดตัว เครื่องบินลำใหม่ L-410NG จำนวน 2 ลำ เพื่อเข้าประจำการสนับสนุนภารกิจการปฏิบัติการฝนหลวงและการดัดแปรสภาพอากาศ โดยเครื่องบินดังกล่าวมีสมรรถนะสูง เป็นเครื่องบินรุ่นใหม่ในภูมิภาคอาเซียนที่ติดตั้งระบบเฉพาะเพื่อการดัดแปรสภาพอากาศ สามารถบินไกลถึง 2,500 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 417 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมมีเทคโนโลยี Glass Cockpit Garmin G3000 ทันสมัยและปลอดภัย ทั้งนี้ การพัฒนาสนามบินตากและการเพิ่มขีดความสามารถด้าน
อากาศยานครั้งนี้เป็นการสืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงริเริ่มโครงการพระราชดำริฝนหลวง และยังคงได้รับการสืบสาน รักษา และต่อยอด ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน
ภาพและวีดีโอ