ไทย-อินโดนีเซียลงนาม MOU อย่างเป็นทางการ ผลักดันความร่วมมือด้านดัดแปรสภาพอากาศในฐานะแกนนำอาเซียน
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และสำนักอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย (The Agency for Meteorology, Climatology and Geophysics) หรือในภาษาบาร์ฮาซา เรียกว่า Badan Meteorologi Klimatologi dan Geofisika (BMKG) ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านวิชาการ ณ ศูนย์ปฏิบัติการเทคโนโลยีการดัดแปรสภาพอากาศ เมืองเปอกันบารู สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีฝนหลวงและการดัดแปรสภาพอากาศ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน
นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มอบหมายให้ นางสาววาสนา วงษ์รัตน์ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวง เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วย ดร.ภักดี จันทร์เกษ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการฝนหลวง และคณะเจ้าหน้าที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เดินทางไปเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ซึ่งจัดขึ้น ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยฝ่ายอินโดนีเซียมีผู้ร่วมลงนาม ได้แก่ ดร. ตรี ฮันโดโกะ เซโตะ (Dr. Tri Handoko Seto) อธิบดีด้านการดัดแปรสภาพอากาศ สำนักอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์แห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
นางสาววาสนา วงษ์รัตน์ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวง และหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เปิดเผยว่า ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีฝนหลวงระหว่างประเทศไทยและอินโดนีเซียมีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 เมื่ออินโดนีเซียได้ขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศไทย โดยภายหลังได้จัดตั้งสำนักประเมินและประยุกต์การใช้เทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (The Agency for Assessment and Application of Technology) หรือในภาษาบาร์ฮาซา เรียกว่า Badan Pengkajian dan Penerapan Teknologi (BPPT) เพื่อกำกับดูกิจกรรมด้านการดัดแปรสภาพอากาศ ทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ผ่านการส่งบุคลากรไปศึกษาดูงาน ประชุมเชิงปฏิบัติการและฝึกอบรมร่วมกันตลอดมา อย่างไรก็ตาม กิจกรรมความร่วมมือไม่สามารถดำเนินได้อย่างเต็มที่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
พิธีลงนามในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างสองประเทศ หลังจากที่ BMKG ได้รับมอบอำนาจในการกำกับดูแลและดำเนินการกิจกรรมดัดแปรสภาพอากาศอย่างครอบคลุม และจากความสนใจร่วมกันในการเสริมสร้างศักยภาพด้านการดัดแปรสภาพอากาศในระดับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้มีการหารือระหว่างการสัมมนาระดับภูมิภาคอาเซียนที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเป็นเจ้าภาพ เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะนำความเชี่ยวชาญของทั้งสองประเทศมาผนึกกำลังกันในฐานะสมาชิกหลักของศูนย์ดัดแปรสภาพอากาศอาเซียน (ASEAN Weather Modification Centre)
ผู้แทนจากทั้งสองหน่วยงานได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือในการบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้ง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตลอดจนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยมั่นใจว่าการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีระหว่างกันจะช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการสร้างความมั่นคงทางน้ำและความยั่งยืนให้กับประชาชนทั้งสองประเทศและภูมิภาคอาเซียนในภาพรวม